Monday, 22 September 2008

ARSARAHA BUCHA DAY

July 17th, 2008 : Arsaraha bucha Day

ในคืนเดือนเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี คืออีกหนึ่งวันสำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ครั้งสมัยหลังพุทธปรินิพพาน


ครับ! วันนี้ผมจะเล่าถึงกิจกรรมดีดีที่เกิดขึ้นในวันอาสาฬหบูชา ปี 2551 ที่กรุงเทพเมืองมหานคร แห่งนี้ครับ
สำหรับเช้าวันพฤหัสบดีโดยปกติทั่วไปแล้วก็คืออีกหนึ่งวันทำงานของเหล่าผู้คนในมหานครเมืองนี้ ซึ่งช่างเป็นภาพที่คุ้นเคยสายตากับการมองเห็นผู้คนกระเสือกกระสน คราคร่ำอยู่บนพาหนะชนิดต่างๆ ทั้งแบบบริการสาธารณะ หรือแบบเฉพาะบุคคล ทุกคนรีบ ทุกคนร้อน และทุกคนรน เพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง ทั้งของวันนี้ และของวันที่ยังมาไม่ถึง!


แต่สำหรับเช้าวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ 2551 ของทุกคนในปีนี้ คือ เช้าที่นิ่งๆ ผู้คนยังได้รับอนุญาตให้นอนซุกอยู่บนที่นอนได้นานเท่าที่ร่างกายและจิตใจที่เคยเมื่อยล้าจะต้องการ เป็นเช้าที่ท้องถนนโล่งว่าง และเป็นเช้าที่อีกหลายๆชีวิตในมหานครเลือกที่จะสร้างบุญและกุศลให้กับตน ด้วยหลากหลายกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อน้อมระลึกถึงองค์พระศาสดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ครับ! และหนึ่งในกิจกรรมดีดีที่เกิดขึ้นนั้น ผมคงจะต้องขอกราบอนุโมทนาบุญไปยังทุกภาคส่วน หรือท่านผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายที่ได้น้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระสารีริกธาตุ และพระธาตุ ของเหล่าอรหันต์ เริ่มตั้งแต่ องค์พระบรมสารีริกธาตุขององค์พระศาสดา พระสารีริกธาตุของเหล่าพระอรหันต์ครั้งสมัยพุทธกาล เช่น พระอานนท์ พระสารีบุตร พระโกณฑัณญะ พระโมคคัลลานะ รวมทั้งพระธาตุของเหล่าพระอรหันต์ในปัจจุบันกาลอีกมากมาย มาจัดแสดงและให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าน้อมสักการะ ณ บริเวณชั้น 1 อาคารมาลีนนท์ 2 ถนนพระราม 4

จะว่าไปแล้ว นับว่าครั้งนี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ สำหรับการได้มีโอกาสเข้าชม น้อมนมัสการองค์พระบรมสารีริกธาตุ พระสารีริกธาตุ และพระธาตุ อย่างใกล้ชิด และชัดเจนเช่นนี้

ความตืนตันใจ ประทับใจ และกุศลบุญนั้น เกิดขึ้นเอ่อล้น เนื่องด้วยเพราะ ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์รูปทรง และสีสันขององค์พระธาตุเอง ที่มีความแตกต่างหลากหลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละพระองค์ รวมไปถึงเรื่องราวเบื้องหลังการเสด็จมาของแต่ละองค์พระธาตุ
ครับ! วันอาสาฬหบูชาปีนี้ผมได้โอกาสทำกุศลกรรมสร้างความชุ่มชื่นใจ และเชื่อว่าก็มีอีกหลายๆท่านคงได้มีโอกาสเช่นกัน ซึ่งอีกครั้งหนึ่งต้องขอกล่าวร่วมอนุโมทนากุศลบุญครั้งนี้กับทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างกิจกรรมดีดีครั้งนี้ อันยังประโยชน์ และต่อเติมพลังชีวิตให้กับมนุษย์กรุงเทพ ผู้ยังเวียนว่ายในสังสารวัตรยังคงมีเรี่ยวแรงมีแรงที่จะว่ายกันต่อไป ตราบจนกว่าจะหยุด! และหลุดพ้น


[-_-]/
Puthx, Creative Director

No comments: